วันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

30 มกราคม | พิธีปิดงาน ตรุษจีนนครสวรรค์ 2552

ไม่ได้อัพบล็อกหลายวันอีกแล้วครับ เพราะว่าช่วงนี้ผมเบางานเลยฉวยโอกาสพักผ่อนยาว
วันนี้ก็ได้ฤกษ์มาอัพเดท Entry นี้เสียที ภาพอาจจะน้อยไปนิดนะครับเพราะว่าไม่ค่อยได้ถ่ายแล้ว

เมื่อวันที่ 30 มกราคม เป็นวันที่จัดงานพิธีปิดงานเทศกาลตรุษจีนปากน้ำโพ นครสวรรค์ 2552 อย่างเป็นทางการ งานจัดที่เวทีชั่วคราวหาดทรายต้นแม่น้ำที่เดิมครับ
การแสดงในช่วงแรกๆ ก็จะเป็นพวก มายากลเปลี่ยนหน้า, คนเชิดคน แล้วก็พวกรำไทยครับ
แต่ตอนที่ผมไปถึงก็เป็นช่วงของคณะมังกรทองขึ้นแสดงพอดี



มังกรทองในคืนนี้มี 2 ตัวครับ ตัวแรกติดไฟสว่างรอบตัวเลย ใช้เชิดตอนต้นการแสดง
ส่วนอีกตัวที่ได้ขึ้นเสาเป็นมังกรที่ใช้พ่นน้ำครับ ในระหว่างการแสดงก็เกิดปัญหาขัดข้องเล็กน้อย แต่ทางคณะผู้แสดงก็แก้ไขได้เรียบร้อยดีครับ



ปีนี้น่าจะเป็นปีแรกที่มังกรทองพ่นน้ำตอนกลางคืน แทนที่จะพ่นไฟเหมือนทุกๆ ครั้ง
อ.วิโรจน์ ที่ทำหน้าที่เป็นพิธีกรบอกว่า จริงๆ แล้วมังกรเป็นสัตว์ที่ให้น้ำ ไม่ใช่ให้ไฟ เพราะฉะนั้นพ่นน้ำย่อมดีกว่า
แต่ผมเข้าใจว่าน่าจะมีผลมาจากเหตุการณ์ในวันแห่กลางวัน ที่ตอนนี้หลายๆ คนก็คงจะรู้ข่าวกันแล้ว
ก็ดีเหมือนกันครับ ไม่มีพ่นไฟ ยิงพลุ ถึงพ่นน้ำจะดูไม่อลังการแต่ก็อบอุ่นสบายใจดีครับ



หลังจากมังกรลงจากเสาแล้ว องค์สมมติเจ้าแม่กวนอิมก็ขึ้นมาบนเวที และมังกรก็เข้าไปคารวะองค์สมมติ อย่างที่เห็นในภาพครับ และเมื่อองค์สมมติเดินเข้าหลังเวทีไป มังกรก็ตามเข้าไปหลังเวทีด้วยครับ



ปิดท้ายด้วยคณะเถ่านั้งชุดปัจจุบัน ส่งมอบธงให้กับคณะเถ่านั้งชุดใหม่ ที่จะมาทำหน้าที่ในปีหน้า

ในวันที่เขียน Entry นี้ (1 กุมภาพันธ์) ตอน 4 ทุ่ม สถานีโทรทัศน์ช่อง NBT ก็นำเทปบันทึกภาพงานตรุษจีนนครสวรรค์ปีนี้มาแพร่ภาพ ซึ่งก็มีเหตุการณ์ตั้งแต่การแสดงที่เวที, งานแห่กลางคืนและแห่กลางวัน รวมไปถึงภาพเหตุการณ์ตอนที่เจ้าแม่ประทับทรงองค์สมมติเจ้าแม่กวนอิมในวันแห่กลางวันด้วย ซึ่งหลายๆ คนก็คงจะได้่ดูกันแล้ว น่าดีใจครับที่ตรุษจีนนครสวรรค์ปีนี้ ได้รับความสนใจมากมายพอสมควร

ในครั้งหน้าผมจะพยายามรวบรวม Feedback ที่มีต่องานตรุษจีนนครสวรรค์ปีนี้ จากไซต์ต่างๆ ในอินเตอร์เน็ตมาให้ดูกันครับ

วันพฤหัสบดีที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2552

29 มกราคม | แห่กลางวัน

รวมภาพเหตุการณ์ในวันแห่กลางวัน เท่าที่ตามถ่ายมาได้ครับ



เริ่้มด้วยคณะเสือไหหลำครับ



สิงโตทองฮากกา เด็กๆ ร้องไห้งอแงเพราะกลัวสิงโต 5555



ขบวนกระถางธูปของเจ้าพ่อ-เจ้าแม่ครับ
คือเราจะเอาธูปไปปักที่กระถางนี้ แล้วเขาจะหยิบธูปที่ปักอยู่แล้วให้เรากลับมา
แล้วเราก็จะเอากลับมาไหว้ตี่จูเอี้ยที่บ้านเราครับ



นี่คือขบวนของเจ้าพ่อ-เจ้าแม่ครับ เป็นเทวรูปที่อยู่ในศาลแล้วเอามาแห่รอบตลาด ตามธรรมเนียมดั้งเดิม



ขบวนสาวงามถืออาวุธเจ้าครับ คนถือก็ล่ำๆ ทั้งนั้นเลย 555



ร่างทรงมาแล้วครับ

ตามปกติในวันแห่กลางวัน ตามบ้านหรือห้างร้านต่างๆ จะตั้งโต๊ะไหว้หน้าบ้านครับ
แล้วร่างทรงก็จะเดินทำพิธีไปตามโต๊ะทีละบ้านๆ รวมไปถึงคณะมังกร-สิงโต และอื่นๆ
ก็จะมาไหว้เจ้าที่โต๊ะไหว้ของแต่ละบ้านด้วยครับ
และตามธรรมเนียมเจ้าบ้านก็จะต้องให้อั่งเปาแก่คณะต่างๆ ที่มาไหว้ที่บ้านด้วยครับ



นี่คือเก้าอี้ (มีหนาม) ที่ร่างทรงนั่งมา



พอร่างทรงเสร็จพิธีหน้าโต๊ะ เจ้าบ้านก็จะจุดประทัดครับ

**ข้อความต่อจากนี้ไปเป็นความเชื่อส่วนบุคคลเฉพาะท้องถิ่น กรุณาใช้วิจารณญาณ**

ปกติมังกรทองจะอยู่ท้ายสุดของขบวนครับ แต่ปีนี้ จู่ๆ มังกรทองก็วิ่งผ่านหน้าบ้านผมไปยังสี่แยกใกล้ๆ บ้าน
ซึ่งเป็นจุดที่มังกรทองจะขึ้นเสาทุกปีครับ แต่ที่แปลกคือรีบวิ่งไปทำไม แล้วทำไมไม่แวะเข้าบ้านที่เขาตั้งโต๊ะไหว้ก่อน ผมก็เลยตามไปดูครับ



มังกรยังไม่ขึ้นเสาเลยครับ รออะไรสักอย่างอยู่ นั่นคือ ...



... เจ้าประทับทรงครับ

ได้ยินว่าเป็นเจ้าพ่อสามตา (ซึ่งผมก็ไม่รู้ที่มาที่ไป) เข้าทรงที่สี่แยกใกล้บ้านผม
แล้วเรียกมังกรให้ไปหาเดี๋ยวนั้นเลย มังกรก็เลยต้องวิ่งจากท้ายขบวน (ที่ห่างกันประมาณเกือบ 1 กม.)

ที่สำคัญคือ ปกติมังกรทองเนี่ยจะอยู่หลังขบวนรถขององค์สมมติเจ้าแม่กวนอิมครับ
แล้วพอจู่ๆ มังกรวิ่งขึ้นหน้าผ่านขบวนรถขององค์สมมติไป เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นคือ ...



... เจ้าประทับทรงที่องค์สมมติครับ
ผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่เพื่อนบ้านเล่าให้ฟังว่า จู่ๆ น้องที่เป็นองค์สมมติ ก็ลุกขึ้นยืน ยกเท้ากระทืบพื้น
และพยายามจะเดินลงจากรถแห่ ซึ่งก็ต้องช่วยกันจับกันพัลวันครับ
เห็นว่าท่านจะให้มังกรกลับมาที่เดิม แต่มังกรก็มาไม่ได้ เพราะติดพิธีที่สี่แยกอยู่



ตอนที่ผมไปถึงองค์สมมติก็ดูเหมือนจะนิ่งแล้วครับ แต่ยังมีอาการอ่อนเพลียเหมือนจะเป็นลม
สังเกตุใบหน้าขององค์สมมติจะนิ่งมากๆ ครับ เห็นแล้วขนลุก
องค์สมมติไม่ยอมพูดกับใครเลยครับ ตอนหลังต้องให้พ่อกับแม่ของน้องเขามาจุดธูปขอขมาด้วย

ขบวนหยุดชะงักไปเกือบหนึ่งชั่วโมงครับ แล้วพอองค์สมมติอาการดีขึ้น ขบวนก็เลยเคลื่อนต่อ
ผมก็เลยกลับมาดูมังกร แล้วก็ได้รู้สาเหตุที่มังกรไปไม่ได้ครับ



เห็นเขาบอกว่าเจ้าพ่อสามตากำลังทำพิธีแก้เคล็ดอยู่ เพราะว่าปีนี้แรง (แรงยังไงก็ไม่รู้เหมือนกัน)
แต่ก็ได้เห็นตอนที่ร่างทรงเอามีดปาดลิ้นสดๆ เลยครับ เลือดทะลัก โอ้ววว



ร่างทรงเอาเลือดที่ลิ้น ป้ายที่ตามังกร, จมูก, ปาก, ลิ้น และหางมังกร แล้วก็ให้มังกรพ่นน้ำมนต์ไปรอบๆ



กำลังร้อนๆ เลยครับ ได้น้ำอย่างนี้ค่อยยังชั่วหน่อย



หลังจากนั้นมังกรก็ขึ้นเสาครับ ปีนี้พ่นน้ำเยอะมาก น้ำนองถนนเต็มหมดเลย



ลงจากเสาแล้วครับ หลังจากนั้นขบวนมังกรต้องวิ่งกลับไปขอขมาองค์สมมติ (ที่เจ้าแม่ประทับทรงอยู่)
ผมไม่ได้ตามไปหรอกครับ แต่ได้ยินคณะกรรมการเขาบอก

พักสายตามาดูขบวนนางฟ้าบ้างครับ



ขบวนนี้จำไม่ได้แล้วว่าของที่ไหน



ของมหาวิทยาลัยผมเองครับ เอา นศ.จีนมาในขบวน น่าสงสารเพราะอากาศร้อนมากๆ



ขบวนนี้น่าจะเป็นของโรงเรียนประชานุเคราะห์



โรงเรียนโพฒิสารครับ น้องๆ เต้นน่ารักมาก

หลังจากขบวนนางฟ้า ผมก็ได้ยินพวกคณะกรรมการพูดกันว่า มังกรออกจากขบวนไปลงน้ำที่หาดทรายแล้ว
(คือทุกปีหลังจากที่ขบวนแห่เสร็จสิ้นแล้ว คณะมังกรทองจะพามังกรไปลงน้ำที่หาดทรายต้นแม่น้ำครับ เหมือนกับว่า เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว โดดน้ำกันดีกว่า อะไรประมาณนี้)
ซึ่งตอนนั้นขบวนยังแห่ไม่รอบตลาดเลย ต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ ผมก็เลยรีบตามไปดูที่หาดทรายครับ

ไปถึงก็ไม่ทันแล้วครับ มังกรอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ที่ศาลเจ้าชั่วคราวมีคนมุึงกันเต็มเลย พอเข้าไปดูก็พบว่า ...



เจ้าพ่อสามตา กำลังเขียนฮู้ (ยันต์) แจกอยู่ครับ
ผมก็เลยไปเข้าแถวรอรับมั่ง ได้รับกระดาษ 3 ใบครับ ใบหนึ่งเป็นภาษาจีน อีกสองใบเป็นรูปทหารจีนถือทวน
แบบที่อยู่ตามประตูศาลเจ้าแหละครับ เขาบอกว่าให้เอาไปแปะหน้าประตูบ้านแล้วจะดี



คนรอรับกันเยอะแยะมากมายเลยครับ

ผมลงไปเดินเล่นที่หาดทรายแปปเดียว ขึ้นมาที่ศาลเจ้าชั่วคราวอีกทีก็พบว่า ...



... เจ้าพ่อประทับทรงอีกแล้วครับ องค์นี้เองที่ผมไปเจอที่ศาลเจ้าเมื่อหลายวันก่อน
แล้วจริงๆ ข้างในศาลยังมีร่างทรงอีกหนึ่งนะครับ ก็คือร่างทรงคนเดียวกับในภาพแรกๆ กำลังจะออกทรง



การเผชิญหน้าของสองเจ้าพ่อครับ อยู่นครสวรรค์มา 20 กว่าปีไม่เคยพบเคยเห็น

เสียดายที่ผมกลับออกมาก่อนครับ ได้ยินทีหลังว่า สุดท้ายที่ศาลเจ้าชั่วคราวนี้
มีร่างทรงมาพบกันทั้งหมด 5 องค์ ก็คือ เจ้าพ่อกวนอู เจ้าพ่อเทพารักษ์ เจ้าพ่อสามตา
องค์สมมติเจ้าแม่กวนอิม (ที่เจ้าแม่กวนอิมประทับทรง) และเจ้าแม่ทับทิม อลังการมากครับ

ออกจากศาลเจ้าชั่วคราวก็มาปิดท้ายที่โต๊ะไหว้หน้าห้างแฟรี่แลนด์ครับ



องค์สมมติ ตอนนี้ยิ้มแล้วครับ หน้าสวยมากๆ



สิงโตปักกิ่ง



เอ็งกอ



เอ็งกอกำลังบู๊ (พลาดไปเปิดแฟลชครับ เลยติดเม็ดฝุ่นมาเต็มภาพเลย)

หมดขบวนเอ็งกอ ทางแฟรี่แลนด์ก็ประกาศว่า ไม่มีขบวนมังกรทองแล้วครับ
คนที่อยู่ในเหตุการณ์บอกว่า เจ้าพ่อ (หรือเจ้าแม่นี่แหละ) ไม่ให้ร่วมขบวนแล้ว อืมมม ....

ก็ประมาณนี้แหละครับ สำหรับงานแห่กลางวันปีนี้ ก็มีเรื่องแปลกๆ ให้ตื่นเต้นกันเยอะแยะพอสมควรเลย
ภาพถ่ายทั้งหมดที่ถ่ายๆ มา ผมจะพยายามรวบรวมและทยอยอัพโหลดขึ้นไว้ที่ Multiply นะครับ
และภาพที่ได้จากกล้องฝีมือคุณ joice จะเอามาอัพให้ดูย้อนหลังอีกเรื่อยๆ ครับ

วันพุธที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2552

28 มกราคม | แห่กลางคืน

แอบหนีงานเลี้ยงที่มหาวิทยาลัยฯ มาดูแห่กลางคืนครับ
ผลก็คือไม่ได้เตรียมกล้องดิจิตอลมา ภาพที่ถ่ายจากกล้องมือถือ เสียหมดครับ
มีที่พอจะดูได้อย่างเดียวก็คือ คลิปอันนี้ครับ
ผมไปยืนดูที่หน้าร้านเทคโนอาร์ต ที่ทำงานของคุณ joice แล้วทีนี้เขาเรียกมังกรทองเข้าร้่าน
ก็เลยได้ถ่ายคลิปในมุมแปลกๆ มาให้ดูกันครับ



ส่วนภาพแบบชัดๆ รอกล้องคุณ joice ตามเคยครับ ไม่นานเกินทนแน่นอน เหอๆๆๆๆๆ

พรุ่งนี้ (29 มกราคม) แห่กลางวันนะครับ เส้นทางขบวนแห่ก็ตามผังที่เคยอัพโหลดไว้ครับ
ขอบอกได้คำเดียวว่า อย่าพลาดเด็ดขาด ครับ

วันอังคารที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2552

27 มกราคม | ไหว้เจ้า

หายหน้าหายตาไปหลายวันเลยครับ งานเยอะมากๆ แถมสุขภาพไม่ค่อยดีอีก เลยต้องขอพักนิดนึง
เมื่อคืนไปไหว้เจ้าที่ศาลเจ้าชั่วคราวใกล้หาดทรายมาครับ ซึ่งก็คงจะเป็นตอนที่คุณ gnret เห็นผมนั่นแหละครับ
(เสียดายน่าจะเจอกันนะครับจะได้ขอถ่ายรูปลงเว็บซะเลย เหอๆๆๆ)
เลยขอเก็บภาพไหว้เจ้ามาให้ดูกันครับ
เสียดายปีนี้ไม่มีพรีเซนเตอร์เพราะคุณ joice ติดงานขายของที่ตลาด 100 ปี เหอๆ

ก่อนอื่นทำบุญค่าธูปเทียนตามศรัทธาครับ จะได้รับธูปและเทียนมากำหนึ่ง
นับแล้วจะมีธูปจำนวน 25 ดอก และเทียนสีแดงอีก 6 เล่ม (โอ้โห)
ดูเหมือนจะเยอะแต่ใช้หมดครับ แล้วเราก็มาเริ่มไหว้กันเลย เริ่มจาก :



ลำดับที่หนึ่ง ไหว้เง็กเซียนฮ่องเต้ครับ จะเป็นเก้าอี้มีผ้าคลุมอยู่ด้านนอกของศาล
จุดนี้ ปักธูป 3 ดอก และเทียนอีก 1 คู่ครับ



ลำดับที่สอง ไหว้ฟ้าดินครับ (ไม่ต้องแต่งงานแบบในหนังจีนก็ไหว้ได้ครับ)
จุดนี้ปักธูป 3 กระถางๆ ละ 3 ดอก รวม 9 ดอก และเทียนอีก 1 คู่



ลำดับที่สาม ไหว้เจ้าในศาลครับ หันหลังจากตรงที่ไหว้ฟ้าดินปุ๊ปก็เจอเลย
ตรงนี้ปักธูป 2 กระถางๆ ละ 3 ดอก รวม 6 ดอก และเทียน 1 คู่ครับ (เทียนหมดและ)



ลำดับที่สี่ ไหว้ตี่จู่เอี้ย หรือเจ้าที่ ครับ จะอยู่มุมด้านในของศาลชั่วคราว
จุดนี้จะแปลกนิดนึง คือมีกระถางธูปกระถางเดียว แต่ปักธูป 5 ดอกนะครับ



สุดท้ายธูปจะเหลือ 2 ดอกครับ ปักที่ประตูทางเข้า 2 ด้านซ้ายขวา ข้างละ 1 ดอก
.. เรียบร้อยครับ ไหว้เจ้าเสร็จแล้ว ไม่ยากเลย

***ข้อสำคัญ***
เวลาถือธูปหลังจากจุดแล้ว ต้องถือสูงๆ นะครับ เหมือนเวลานักกีฬาถือคบเพลิงนั่นแหละครับ
มิฉะนั้นเวลาคนเยอะๆ ธูปเราอาจไปจิ้มหลังคนอื่นได้ อันตรายมากครับ
หลายคนจะถือต่ำๆ เหมือนจะถือไปเสียบหลังชาวบ้านเขา ซึ่งเข้าใจว่าป้องกันควันธูปเข้าตา (เพราะธูปเยอะมาก) แต่จริงๆ แล้วถือสูงๆ ก็ป้องกันควันเข้าตาได้เหมือนกันครับ


คืนวันที่ 28 เป็นงานแห่กลางคืน อย่าลืมพลาดมาเที่ยวชมการแสดงนะครับ
เสียดายที่ผมติดงานที่มหาวิทยาลัยฯ คงจะพลาดทั้งแห่กลางวันและกลางคืนเลย แต่คุณ joice ยังอยู่ครับ
เสร็จงานแล้วจะมีภาพมาให้ชมกันแน่นอนครับ

วันอาทิตย์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2552

25 มกราคม | มังกรทอง / เจ้าประทับทรงคืนวันตรุษจีน

เพิ่งกลับมาจากงานเมื่อสักครู่นี้เองครับ

ที่เวทีหาดทรายวันนี้มีการแสดงของคณะมังกรทองเจ้าพ่อ-เจ้าแม่ปากน้ำโพ ซึ่งคนมารอดูกันเนืองแน่นมากครับ
น่าเสียดายที่ผมไม่ได้เอากล้องดิจิตอลไป เลยใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายมาซึ่งภาพส่วนใหญ่ดูไม่รู้เรื่องครับ
คัดมาให้่นิดหน่อยแค่ที่พอดูออกนะครับ ส่วนภาพแบบชัดๆ จะรอจากกล้องของคุณ joice อีกที



มังกรขึ้นเสาครับ จุดพลุกันสนั่นหวั่นไหวสะใจมากๆ



แอบไปถ่ายหน้ามังกรแบบชัดๆ ที่หลังเวที

หลังจากดูมังกรเสร็จ ญาติของคุณ joice ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะมังกรทองฯ ชวนพวกเรานั่งเรือข้ามไปศาลเจ้าครับ เขาบอกว่าตอนนี้ เจ้ากำลังประทับทรงอยู่ที่ศาลเจ้า ให้รีบไปดู

ข้ามเรือไปถึงเ้จ้าก็กำลังจะออกจากร่างทรงแล้วครับ ได้ปั๊มหัวพอเป็นพิธีแล้วเจ้าก็จะออกทรง



ร่างทรงกำลังทำพิธีเพื่อส่งเจ้าออกจากร่างทรงครับ
เก้าอี้น้อยที่เห็นในมือนั้นคือ ม้าทรงของเจ้าครับ มีความพิเศษอยู่ตรงที่ ...



... เจ้า (ในร่างทรง) สามารถตั้งบนก้นถ้วยได้แบบนี้ โดยไม่ล้ม



สังเกตุหน้าตัดของด้ามไม้ที่ใช้ตั้งบนก้นถ้วยนะครับ เรียบ ตรง



ดูกันชัดๆ อีกที อันนี้น่าจะทำขึ้นใหม่ครับ เพราะดูแล้วยังใหม่ๆ อยู่ (เมื่อก่อนจะมีอันเดียว)

การตั้งม้าทรงในพิธีแบบนี้ สามารถดูได้ในงานวันแห่กลางวันครับ เพราะ่ในขบวนแห่จะมีการแห่ร่างทรงเจ้าด้วย ซึ่งร่างทรงก็จะไปยังโต๊ะไหว้ของบ้าน ร้านค้าต่างๆ ในตลาด แล้วก็จะตั้งม้าทรงแบบนี้ทุกบ้านแหละครับ
และใช้เวลาในการตั้งไม่นานด้วย (ดูเหมือนว่าถ้าบ้านไหนตั้งแล้วไม่อยู่ หรือใช้เวลาตั้งนาน แสดงว่าอาจจะมีอะไรไม่ดีอยู่ในบ้านนั้น..เท่าที่สังเกตุเอาเองนะครับยังไม่ได้ถามผู้รู้)

ส่งท้ายในวันนี้ เรียกน้ำย่อยกับคลิปวิดีโอ มังกรทอง ที่ถ่ายจากกล้องมือถือครับ

วันเสาร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2552

25 มกราคม | วันตรุษจีน 2552



สวัสดีปีใหม่ 2552 ขอให้ร่ำรวยเงินทอง ธุรกิจก้าวหน้า เฮงๆๆๆ ครับ

วันพฤหัสบดีที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2552

22 มกราคม | สิงโตกว๋องสิว / เอ็งกอ / งานวัดโพธิ์

วันนี้ไปไม่ทันสิงโตกว๋องสิวกับเอ็งกออีกแล้วครับ เลยต้องเอาภาพจากคุณ joice มาลง



สิงโตกว๋องสิว อันนี้คงเห็นกันบ่อยนะครับ เพราะมีอยู่หลายคณะมากเลยในประเทศไทย



ผู้ฝึกสอนคณะเอ็งกอ-พะบู๊ กำลังให้สัมภาษณ์ถึงประวัติความเป็นมา

เกร็ดคร่าวๆ : การแสดงของเอ็งกอ มีที่มาจากตำนาน ผู้กล้า 108 คนแห่งเขาเหลียงซาน (หาอ่านได้จากหนังสือ ซ้องกั๋ง) การแต่งหน้าผู้แสดงนั้นลวดลายมักจะไม่ซ้ำกันเลย และการควงไม้พลองเพราะว่าต้องการให้เกิดเสียงเหมือนการควบม้า ส่วนการแสดงพะบู๊ เช่น การต่อสู้ด้วยอาวุธต่างๆ, การกระโดดลอดบ่วงมีด-บ่วงไฟ มีการพัฒนาขึ้นมาทีหลังครับ



หลังการแสดงของทั้งสองคณะ ก็มีการแสดงชุดรำนางฟ้ามาให้ชมกันครับ จากโรงเรียนประชานุเคราะห์



เจอตากล้องขั้นเทพเข้าให้แล้วครับ ต่อเก้าอี้ยืนหน้าเวทีซะงั้น สงสัยอยากแจ้งเกิด

ที่วัดโพธาราม (วัดโพธิ์ ที่เคยออกเรื่องจริงผ่านจอไปเมื่อปลายปีที่แล้ว) ก็มีงานครับ
ไหนๆ ก็ห่างวัดวาอารามมานานแล้ว ก็เลยขอไปทำบุญซะบ้าง



พระบรมสารีริกธาตุ



คุณ joice เสี่ยงทายด้วยการยกช้างด้วยนิ้วก้อย
(เขาให้อธิษฐานแล้วยกสองครั้งครับ ครั้งแรกขอให้ยกขึ้น และครั้งที่สองต้องขอให้ยกไม่ขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะยกไม่ขึ้นทั้งนั้นละครับ เพราะเจ็บนิ้วจากการยกครั้งแรกไปแล้ว)



มีร้านปาโป่งเป็นแถวยาวตลอดถนนหลังวัดเลยครับ วัยรุ่นเยอะมาก ปากันเข้าไปๆ

วันนี้ไม่ค่อยได้เก็บเหตุการณ์อะไรเลยครับ เพราะว่าออกมาช้า เลยพลาดการแสดงไปพอสมควร
ส่วนวันพรุ่งนี้ที่เวทีหาดทรายจะมีการแสดงสิงโตทองฮากกา กับเสือไหหลำอีกครั้งหนึ่งครับ
ใครที่พลาดครั้งแรกไปก็ขอให้ไปดูกันให้ได้นะครับ โดยเฉพาะคณะเสือไหหลำ ซึ่งไม่ได้หาดูกันง่ายๆ
ที่สำคัญ ทั้งสองคณะนี้ เป็น rare items ของจังหวัดนครสวรรค์และของประเทศไทยเลยครับ

(คณะสิงโตทองฮากกา เหลือเพียง 2 ที่ในประเทศไทย คือที่ จ.นครสวรรค์ และ จ.อุทัยธานี ส่วนคณะเสือไหหลำ เหลือเพียงคณะเดียวในประเทศไทยครับ)



ป.ล. 1 : ซื้อหนังสือและ DVD ภาพยนตร์ สายเลือดมังกรฯ มาแล้วครับ หนังสือข้อมูลแน่นดี และพิมพ์ผิดเยอะมากๆ

ป.ล. 2 : บล็อกเกอร์ไปแจ้งเกิดอีกแล้วครับ ไปร้องเพลงที่บูทธนาคารทิสโก้มา ได้สมุดโน๊ตมา 1 เล่ม ฮ่าๆๆๆ