วันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2552

20 มกราคม | สิงโตฮากกา / เสือไหหลำ

เมื่อคืนว่าจะโพสต์ต่อ เผลอหลับไปซะก่อนครับ 55555
ที่เวทีแสดงเมื่อวานมีสิงโตทองฮากกา กับเสือไหหลำขึ้นแสดงครับ



ก่อนขึ้นแสดงเสือก็จะมาไหว้เจ้า

เมื่อวานเดินกันเยอะ ข้าวก็ยังไม่ได้กิน พวกเราก็เลยลงไปนั่งที่ลานเบียร์ข้างเวทีแสดง แล้วก็ซื้อของทอดมากินกัน มุมที่นั่งนี่แบบว่าเห็นเวทีชัดเจนมากครับ แต่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเมื่อเริ่มการแสดงจะเจอแบบนี้



ทำไมไม่ไปนั่งดูดีๆ ละครับเนี่ย

สองคนตรงกลางรูปเป็นสาวทอมครับ หน้าตาดีด้วยแต่ทำไมแกล้งบื้อก็ไม่รู้
ยังดีที่ยังพอมองเห็นเวทีบ้าง แต่ไม่เกิน 10 นาทีหลังจากเริ่มการแสดง พวกเราก็เจอของแรงครับ



เฮียใส่เสื้อเบอร์ 11 นี่สูงประมาณนักบาส คนเดียวอยู่เลยครับ ทัศนวิสัยมืดสนิท (เวง)

ที่ไม่เข้าใจอีกอย่างก็คือ บริเวณเวทีก็มีเจ้าหน้าที่ และ อป.พร.อยู่กันเยอะแยะ ทำไมถึงปล่อยให้คนมายืนดูข้างเวทีและหน้าเวทีโดยบังคนที่นั่งเก้าอี้เสียหมดอย่างนี้โดยไม่เข้าไปบอกให้ถอยออกไปก็ไม่รู้ ไม่ใช่แค่ลานเบีียร์ตรงที่พวกเรานั่งกันเท่านั้นนะครับ เก้าอี้นั่งชมการแสดงที่ทางงานจัดไว้ให้ด้านหน้า ก็เจอพลเมืองดีเหล่านี้ยืนบังกันเสียสิ้น

สงสารอากง อาม่า อาซิ้ม ที่มานั่งจองที่นั่งกันตั้งแต่หัวค่ำครับ

ตอนแสดงสิงโตทองฮากกาผมไม่ได้ถ่ายรูปไว้ เพราะกล้องมือถือผมแพ้ทางแสงจ้าๆ ครับ ถ่ายออกมาแล้วมองไม่ออกเลยว่าถ่ายอะไร

เจอจุดที่น่าเซงอีกอย่างหนึ่งก็คือ พิธีกรชายครับ
พิธีกรชาย เชิญผู้ฝึกซ้อมสิงโตทองฮากกา ขึ้นมาให้สัมภาษณ์บนเวที เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของคณะสิงโตฯ ซึ่งผู้ฝึกซ้อมบอกว่า สิงโตทองฮากกา เป็นการเชิดสิงโตที่เป็นประเพณีของชาวจีนแคะ

พีธีกรชายย้ำคำพูดตรงที่ว่า จีนแคะ ที่ผู้ฝึกซ้อมพูด ว่า จีนแคระ ประมาณว่า คุณพูดผิดแล้ว ต้องมี ร เรือ ควบกล้ำด้วย (และพิธีกรชายท่านนี้ยังใช้คำว่า จีนแคระ ทุกครั้งที่พูดถึงจีนแคะ)

รู้จัก "จีนแคะ" มั้ยครับ ?

ชาวจีนแคะเป็นชนกลุ่มน้อยของชาวฮั่นที่อาศัยอยู่รวมกันที่เมืองกว่างตง (กวางตุ้ง) เจียงซี และฝูเจี้ยน กล่าวกันว่า บรรพบุรุษของพวกเขาอยู่ที่เมืองเหอหนาน และ ซ่านซี ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศจีนเมื่อ 1,700 ปีก่อน ปัจจุบัน ชาวจีนแคะได้ตั้งถิ่นฐานอยู่ทางตอนใต้ของประเทศจีน และยังได้อพยพข้ามน้ำข้ามทะเลไปในหลายประเทศในโลก ชาวจีนแคะมีอิทธิพลสำคัญในเรื่องอาหารและเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการปฏิวัติและเรื่องผู้นำทางการเมือง

อ้างอิงจาก http://www.twip.org/blog-th:69-ชาวจีนแคะในประเทศจีน
แล้วจีนแคะเกี่ยวไรกับงานตรุษจีนของนครสวรรค์ คือมันสำคัญอยู่ที่ สิงโตทองฮากกา ครับ

คำว่า “ฮากกา” เป็นสำเนียงจีนแคะโดยตรง นกลางออกเสียงว่า “เค่อเจีย” (ke-jia) คำว่า “ฮาก” หรือ “เค่อ” ในที่นี้แปลตรง ๆ ว่า แขก หรือ อาคันตุกะ ส่วนคำว่า “กา” หรือ “เจีย”คำแปลโดยทั่วไปจะหมายถึง บ้าน หรือ สำนัก แต่ในกรณีที่นำมาใช้รวมคำว่า “ฮาก”ความหมายจะเปลี่ยนไปในอีกบริบทหนึ่ง ซึ่งจะทำให้ “กา”หรือ “เจีย”หมายถึง พวก กลุ่ม หรือครอบครัวเป็นต้น “เค่อเจีย”หรือ “ฮากกา”จึงหมายถึง กลุ่มแคะ หรือ พวกแคะ

เนื่องจากโดยส่วนใหญ่ของการเรียกของคนจีนต่อคนกลุ่มนี้มีคำว่า “เหญิน”(ren)ที่แปลว่า คน เพิ่มเข้าไปในการใช้ด้วย “เค่อเจีย”หรือ “ฮากกา” จึงกลายเป็น “เค่อเจียเหญิน” (ke-jia- ren) หรือ ฮากกาหยิ่น ซึ่งเรียกอย่างไทยก็คือ กลุ่มคนแคะหรือพวกคนแคะ หรือที่เราใช้กันจริง ๆ ก็คือ คนจีนแคะ นั่นเอง

ถ้าเช่นนั้น ทำไมเราจึงไม่เรียกจีนกลุ่มนี้ว่า“เค่อ” หรือ “ฮาก”ทับศัพท์ลงไปตรง ๆ แต่กลับเรียกว่า “แคะ”มาจนทุกวันนี้ จริง ๆแล้ว คำว่า “แคะ”เป็นคำจีนแต้จิ๋ว อันเป็นจีนอีกสำเนียงหนึ่ง และเนื่องจากสังคมไทยมีจีนสยามที่เป็นจีนแต้จิ๋วโดยส่วนใหญ่ จีนกลุ่มนี้จึงกลายเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดอะไรหลาย ๆ อย่างเกี่ยวกับวัฒนธรรมจีนให้แก่สังคมไทยไปด้วย และหนึ่งในอะไรหลายอย่างนี้ก็คือสำเนียงจีนแต้จิ๋วที่ถูกทับศัพท์ลงไปนั่น เอง ด้วยเหตุนี้ คำว่า “จีนแคะ”ในที่นี้จึงไม่ได้หมายถึง “ฮากกา”ที่เป็นอีกสายหนึ่งของ “จีนฮั่น”ตรงๆ แต่เพียงด้านเดียว หากแต่ลึกลงไปแล้วยังหมายถึง “จีนฮากกา” ที่อยู่ในไทยด้วยและเป็นจีนที่ส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตได้กลมกลืนเข้ากับ วัฒนธรรมไทยจนยากที่จะแยกออก และในส่วนนี้เองที่ทำให้จีนแคะ และจีนสำเนียงอื่น ๆ ที่อยู่ในไทย จึงมีวัฒนธรรมเฉพาะของตนที่ไม่ใช่วัฒนธรรมจีนโดยสมบูรณ์ แต่ก็ไม่ใช่วัฒนธรรมไทยโดยสมบูรณ์เช่นกัน

อ้างอิงจาก http://hakkapeople.com/node/149

ส่วนจีนแคระ ที่พูดแล้วนึกภาพถึงชาวจีนที่รูปร่างคล้ายๆ คนแคระนั้น ไม่มีครับ

ที่รู้สึกไม่ชอบยิ่งกว่าคนยืนบังเวที ก็คือ การพูดของพิธีกรชาย นี่แหละครับ
ถ้าคณะกรรมการ หรือผู้เกี่ยวข้อง ได้มาอ่านเว็บนี้ ก็ขอให้ช่วยปรับปรุงด้วยนะครับ

บ่นเสร็จแล้วดูภาพกันต่อครับ



ฉากหนึ่งในการแสดงของคณะัเสือไหหลำ ตอนเสือกำลังหลับ



... แล้วเด็กน้อยไปแหย่เสือ



... เสือก็เลยบิ๊ว กินเด็กซะเลย



... เลยต้องเดือดร้อนให้ บู๊ซ้ง (สองคนด้วย) มาจัดการเสือ



... จนช่วยเด็กออกมาได้สำเร็จ โอ้วว

งานนี้ผมยอมแพ้กับกล้องมือถือ O2 Zinc ครับ ครั้งต่อไปผมจะเปลี่ยนไปใช้กล้องดิจิตอลละ รู้สึกเศร้าจริงๆ เวลาเจอช็อตสำคัญ แล้วถ่ายภาพออกมาดูไม่รู้เรื่อง (เฮอๆๆๆ)

เมื่อคืนนี้คุณ Joice ถ่ายคลิปไว้ด้วยครับ ถ้าได้มาแล้วจะอัพขึ้น Youtube ให้ดูนะครับ

2 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ29 มกราคม 2552 เวลา 07:43

    ขอบคุณค่ะสำหรับข้อมูล

    ตอบลบ
  2. มี 3 คณะ จีนแคระ โปวเจ่ง ไหหลำ

    ตอบลบ